There Is A Light That Never Goes Out - ซาวนด์สเคปแห่งความหงุดหงิดที่ไพเราะ

เพลง “There Is A Light That Never Goes Out” ของวง The Smiths เป็นเพลงที่เปี่ยมด้วยความขัดแย้ง: มันทั้งเศร้าและหวังดี, โศกนาฏกรรมและโรแมนติก และซาวนด์สเคปของมันก็同様にซับซ้อน

The Smiths ถือกำเนิดขึ้นในช่วงยุค Post-Punk ที่กำลังเฟื่องฟูในยุโรปยุค 80s. Morrissey, ร้องนำที่มีบุคลิกโดดเด่นด้วยทรงผมที่โกรธจัดและเนื้อเพลงที่มืดมน, และ Johnny Marr, กีต้าร์ริสผู้มีความสามารถเหนือชั้นและความชอบในการทดลองซาวนด์ใหม่ๆ, ได้มาร่วมกันสร้างผลงานดนตรีที่ไม่เหมือนใคร

“There Is A Light That Never Goes Out”, ซึ่งถูกปล่อยออกมาในปี 1986 เป็นส่วนหนึ่งของอัลบัม “The Queen is Dead”, เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนถึงความลุ่มลึกและความซับซ้อนของดนตรี The Smiths. เนื้อเพลงของ Morrissey พูดถึงความรักที่ไม่สมหวัง, ความโหยหา, และความอยากจะหนีจากความจริง

“And if a double-decker bus Crashes into us, To die by your side Is such a heavenly way to die."

คำร้องนี้เต็มไปด้วยภาพที่ทั้งโรแมนติกและน่าสยดสยอง. Morrissey เปรียบเทียบความตายจากอุบัติเหตุรถบัสกับการได้เสียชีวิตอยู่ข้างคนที่เขารัก มันเป็นการแสดงออกถึงความปรารถนาที่จะอยู่เคียงข้างคนที่รัก, ถึงแม้ว่ามันจะหมายถึงความหายนะ

ซาวนด์ของเพลงนี้ก็มีความโดดเด่นไม่แพ้เนื้อร้อง. กีตาร์ริฟที่ไพเราะและเรียบง่ายของ Marr สร้างบรรยากาศที่มีทั้งความหวังและความเศร้า, ราวกับภาพวาด impressionist ที่แสดงให้เห็นถึงความสวยงามของความโศกนาฏกรรม

Johnny Marr เล่าว่าเขาลองเล่น riff กีตาร์นี้บน acoustic guitar และได้รับแรงบันดาลใจจาก “Stairway to Heaven” ของ Led Zeppelin. Bassline ของ Andy Rourke ก็เพิ่มความหนาแน่นและความหนักแน่นให้กับเพลง, ในขณะที่การตีกลองแบบ understated ของ Mike Joyce ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศ melancholy

เพลง “There Is A Light That Never Goes Out” มีอิทธิพลอย่างมากต่อวงดนตรีและศิลปินในเวลาต่อมา. มันถูกนำไป cover โดยศิลปินชื่อดังหลายคน, รวมถึง The Cure, Siouxsie and the Banshees และ The Killers.

ความสำเร็จของ “There Is a Light That Never Goes Out” ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ. มันเป็นการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างเนื้อเพลงที่ลึกซึ้ง, ซาวนด์สเคปที่ไพเราะและการแสดงดนตรีที่ยอดเยี่ยม. เพลงนี้ยังคงเป็นเพลงคลาสสิกในジャンルの Alternative Rock และเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความสามารถของ The Smiths

The Smiths: สัญลักษณ์ของความไม่สมบูรณ์แบบ

The Smiths ถือเป็นหนึ่งในวงดนตรี alternative rock ที่มีอิทธิพลมากที่สุดในช่วงทศวรรษ 1980s. แม้ว่าวงจะแยกวงไปแล้วในปี 1987, แต่ผลงานของพวกเขายังคงเป็นที่ชื่นชอบและได้รับการยกย่องอย่างสูง

ความสำเร็จของ The Smiths เกิดจากหลายปัจจัย:

• เนื้อเพลงของ Morrissey: Morrissey เป็นนักแต่งเพลงที่มีพรสวรรค์ในการสร้างเนื้อร้องที่ทั้งลึกซึ้ง, กวนตีน, และโรแมนติก.
• ดนตรีของ Johnny Marr: Marr เป็นกีต้าร์ริสที่มากความสามารถและมีวิสัยทัศน์ในการผสมผสาน 장르ดนตรีที่แตกต่างกัน

The Smiths ได้ปล่อยอัลบัม studio 4 อัลบัม และ EPs มากมาย.

นอกจากนี้ The Smiths ยังมีซิงเกิ้ลดังๆ มากมาย เช่น “This Charming Man,” “How Soon Is Now?,” “Heaven Knows I’m Miserable Now” และ “Bigmouth Strikes Again”.

ความเป็นมาของ Alternative Rock: ภูมิหลังทางดนตรี

Alternative rock เป็น 장르ดนตรีที่เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษ 1980s ในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร. มันเป็นการตอบโต้ต่อแนวเพลง mainstream ที่ได้รับความนิยมในขณะนั้น

ลักษณะสำคัญของ Alternative Rock:

• การใช้กีตาร์ที่หนักแน่น
• การร้องที่มักจะเป็น “shouting” หรือ “growling”
• เนื้อเพลงที่มีเนื้อหาส่วนใหญ่เกี่ยวกับความไม่พอใจทางสังคม, ความรัก, และความหดหู่

Alternative Rock ได้รับอิทธิพลจาก 장르ดนตรีที่หลากหลาย เช่น punk rock, post-punk, new wave และ glam rock.